วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แฉอีก!รบ.จีนเบื้องหลังระดมทุนซื้อหงส์

สื่อเมืองผู้ดี เผยบริษัทลงทุนของรัฐบาลจีน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการระดมทุนเข้าเทคโอเวอร์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล หลังจากมีนโยบายขยายอิทธิพลสู่ทั่วโลก จึงมอบหมายให้ เคนนี่ หวง นักธุรกิจชื่อดัง ดำเนินการคว้าแบรนด์กีฬาชั้นนำมาให้ได้

เดอะ ไทม์ส และ เดอะ การ์เดี้ยน 2 หนังสือพิมพ์เล่มดังของเกาะอังกฤษ พร้อมใจรายงานข่าวตรงกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าฝ่ายที่ต้องการเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก คือรัฐบาลจีน ที่กำลังต้องการขยายอิทธิพลสู่ทั่วโลก ด้วยการเข้าสู่วงการกีฬาของอังกฤษ
 
กองทุนเพื่อความมั่งคั่งของจีน หรือ ไชน่า อินเวสต์เมนต์ คอร์ป (ซีไอซี) เป็นผู้จัดหาเงินทุนสำหรับการยื่นข้อเสนอที่มี เคนนี่ หวง นักธุรกิจ เป็นหัวหอก เพื่อเข้าถือสิทธิ์ในแบรนด์กีฬาชั้นนำ นับเป็นการหักมุมอีกรอบสำหรับ "หงส์แดง" ที่ดูโอเจ้าของสโมสรประกาศขายเมื่อเดือนเมษายน
 
การโผล่เข้ามายื่นข้อเสนอซื้อ ลิเวอร์พูล ของ ซีไอซี ก่อให้การเปิดศึกเทคโอเวอร์ ซึ่งบริษัทจีน แข่งกับกลุ่มเงินทุนเอกชน และ ครอบครัวมหาเศรษฐีคูเวต โดยข้อเสนอของจีนประเมินค่าสโมสรอยู่ที่ระหว่าง 300-350 ล้านปอนด์ (ราว 1.44-1.68 หมื่นล้านบาท) ตามรายงานของ เดอะ ไทม์ส ที่อ้างแหล่งข่าววงใน
 
หากการเทคโอเวอร์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ ซีไอซี จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร โดยเงินทุนดังกล่าวคาดหวังจะเอามาทำเงินด้วยการสร้างสนามที่ใหญ่กว่าเดิม และพัฒนาฐานแฟนบอลเอเชียของสโมสร จากการเปิดเผยของ เดอะ ไทม์ส แต่ผู้บริหารคนหนึ่งของ ซีไอซี ในปักกิ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า "ผมเพิ่งอ่านข่าวนี้ ผมไม่ทราบเรื่องนี้"
 
มีการคาดเดาไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับความสนใจของ หวง เจ้าสัวด้านกีฬาชาวจีน จนเขาต้องออกแถลงการณ์ปฏิเสธรายงานข่าวว่าเขาได้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา "มร. หวง อยากเน้นย้ำว่าเขาได้แสดงความสนใจในการลงทุนกับ ลิเวอร์พูล เอฟซี แต่ไม่ได้ยื่นข้อเสนอย่างเป็นทางการ"
 
เป็นที่เชื่อว่า หวง ประธนบริษัทการลงทุน คิวเอสแอล สปอร์ตส์ จำกัด ในเกาะฮ่องกง ต้องการบรรลุข้อตกลงตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมมีเวลาเสริมทัพก่อนปิดตลาดซื้อขายนักเตะ และ เขายังได้คุยกับบรรดาขาใหญ่ที่แอนฟิลด์ เพื่อแสดงความจริงจังในการเทคโอเวอร์ ด้วยความหวังว่าจะช่วยกล่อมดาวดังอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ว่าสโมสรมีอนาคตที่ดีกว่ารออยู่

ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100805_081.html