"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มดุ เปิดรังไล่ถล่ม เวสต์แฮม ทีมบ๊วยของตาราง 3-0 เก็บ 3 คะแนนเต็ม ขึ้นมารั้งที่ 9 ของตารางเรียบร้อย ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษลิเวอร์พูล 3 - 0 เวสต์แฮม
สนาม : แอนฟิลด์
อีกคู่ที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลขาดสตีเว่น เจอร์ราร์ดซึ่งเจ็บมาจากเกมทีมชาติ ทำให้เจมี่ คาร์ราเกอร์ซึ่งลงเล่นให้สโมสรเป็นเกมที่ 650 ได้สวมปลอกแขนกัปตัน
พร้อมกันนี้ เกล็น จอห์นสันก็หายเจ็บกลับมาติดโผตัวจริงเช่นเดียวกับเดิร์ก เคาท์ซึ่งถอนตัวจากเกมทีมชาติ รวมถึงดาวิด เอ็นก๊อก ตลอดจนคริสเตียน โพลเซ่นซึ่งเสียบแทนลูคัส เลว่าที่ถูกแบน รวมแล้วปรับทัพสามรายจากเกมพ่ายสโต๊ค
ส่วนเวสต์แฮมทีมบ๊วยเปลี่ยนขุนพลสองรายจากเกมเจ๊ากับแบล็คพูลโดยมี ราโดสลาฟ โควัชกับคาร์ลตันโคลได้แทนที่สก็อตต์ พาร์เกอร์กับคีร่อน ดายเออร์ซึ่งล้มเจ็บ
เริ่มเกมขึ้นมา ลิเวอร์พูลก็เดินหน้าลุยใส่อาคันตุกะทันที และได้เสียวตั้งแต่นาทีที่ 3 จากการพาบอลบุกขึ้นทางซ้ายของเอ็นก๊อกแล้วตัดสินใจสับไกแถวริมเขตโทษทันที แต่โรเบิร์ต กรีนทิ้งตัวปัดให้พ้นกรอบได้
เกมยังอยู่ในแดนขุนค้อนข้างเดียว และในนาทีที่ 10 เอ็นก๊อกก็ลากบอลจากฝั่งขวาแหวกเข้ามาตรงกลางก่อนจะจิ้มให้เฟร์นานโด ตอร์เรสเผด็จศึกจาก 20 หลาหลุดออกเส้นหลัง
ถัดมาในนาทีที่ 17 ตอร์เรสป้ายบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายคืนให้ราอูล เมยเรเลสซัลโวระยะ 20 หลาถูกกรีนปัดพ้นคานได้สำเร็จ
กระนั้นก็ดี จากลูกเตะมุมด้านขวา สาวกเดอะค็อปก็ได้เฮลั่นเมื่อจอห์นสันอดีตกองหลังเวสต์แฮมพักอกแต่งจังหวะ ให้ตัวเองวอลเลย์อย่างถนัดถนี่ระยะ 14 หลาผ่านกรีนได้สำเร็จ จึงเป็นอันว่าลิเวอร์พูลนำหน้า 1-0 ในนาทีที่ 18
ดวลกันมาถึงนาทีที่ 27 ทีมจากเมืองกรุงก็ตาข่ายอีกเมื่อตอร์เรสกระดกบอลในเขตโทษแล้วแดนนี่ แกบบิดอนยกแขนขึ้นมาสกัด ผู้ตัดสินจึงชี้ไปที่จุดโทษ และเป็นเคาท์ที่สังหารไปกลางประตูโดยกรีนพุ่งไปทางซ้ายมือของตัวเอง ส่งผลให้หงส์แดงทิ้งห่างเป็น 2-0
กระทั่งนาทีที่ 36 เดอะ แฮมเมอร์สจึงมีลุ้นหนแรกจากการวางบอลยาวทางกราบซ้ายของหลุยส์ บัวร์ม็อตที่โคลได้โขกจาก 12 หลา แต่ขาดความรุนแรงจึงถูกโฆเซ่ เรน่ากระโดดคว้าได้
และในที่สุด อีกสองนาทีต่อมา ทีมเยือนก็เสียท่าอีกตามเคยเมื่อตอร์เรสทะลุเข้าไปเข่นในเขตโทษด้านซ้ายถูก กรีนใช้ขาสกัดได้ที่เสาแรก แต่พอล คอนเชสกี้เด็กเก่าขุนค้อนอีกรายเก็บบอลที่ริมสนามได้จึงสาดยาวกลับมาให้มัก ซี่ โรดริเกซโขกจาก 12 หลาสะบัดเข้าเสาไกลสุดที่กรีนจะพุ่งปัดถึงทำให้เร้ด แมชีนนำห่าง 3-0
ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านเพลาเครื่องลงจึงเป็นโอกาสที่ทีมเยือนได้เล่นเกมรุกบ้าง แต่ก็ไร้พิษสง ครบ 45 นาทีลิเวอร์พูลจึงนำไปแบบหายห่วง 3-0
ครึ่งหลัง แกร้นท์ เปลี่ยนตัวด้วยการส่ง ปาโบล บาร์เรร่า แทน วิคเตอร์ โอบินน่า ที่เล่นไม่ออก ขณะที่ในนาทีที่ 52 ตอร์เรส พยายามฟ้องว่า แก๊บบิดอน ใช้มือปัดบอลในกรอบเขตโทษอีก แต่คราวนี้ ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
ลิเวอร์พูล ยังเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า โดย ตอร์เรส ได้ยิงติดเซฟ ก่อนที่ในนาทีที่ 68 มักซี่ จะหลุดเข้าไปตวัดมุมแคบในกรอบเขตโทษด้านซ้ายผ่านหน้าประตูไป
นาทีที่ 72 หงส์แดง น่าได้ประตูสุดๆ เริ่มจาก ตอร์เรส ซัดไปติดมือ กรีน ที่ปัดไปชนคานเต็มๆ ลูกเด้งออกมา ก่อนที่ โพลเซ่น จะเก็บบอลได้แล้วส่องไกลในจังหวะต่อเนื่อง ทว่า กรีน ก็ยังเซฟไว้ได้
จากนั้น รอย ฮอดจ์สัน เปลี่ยนตัวบ้างโดยส่ง ฟาบิโอ ออเรลิโอ ลงแทน เอ็นก๊อก ขณะที่ แกร้นท์ เปลี่ยนคนสุดท้ายส่ง เจมส์ ทอมกิ้นส์ แทน เอริต้า อิเลิงก้า ในช่วง 16 นาทีสุดท้าย
เข้าสู่นาทีที่ 83 ฮอดจ์สัน ถอด เมยเรเลส ไปพักแล้วส่ง จอนโจ เชลวี่ย์ ดาวรุ่งที่ซื้อมาจาก ชาร์ลตัน ลงแทน ก่อนที่อีกสองนาทีต่อมา ตอร์เรส จะได้พักเพื่อเปิดทางให้ ไรอัน บาเบล ลงสนาม
ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันได้อีก จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะไปสวยงาม 3-0 ขึ้นไปรั้งอันดับเก้าของตารางพรีเมียร์ลีก ส่วน เวสต์แฮม จมบ๊วยต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้, เดิร์ค เค้าท์, ราอูล เมยเรเลส, คริสเตียน โพลเซ่น, มักซี่ โรดริเกซ (จอนโจ เชลวี่ย์ น.83), เฟร์นานโด ตอร์เรส (ไรอัน บาเบล น.85), ดาวิด เอ็นก๊อก (ฟาบิโอ ออเรลิโอ น.73)
สำรองไม่ได้ใช้ : แบร็ด โจนส์, โซติริออส คีร์เกียคอส, มาร์ติน เคลลี่, เนธาน เอ๊คเคิลสตัน
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, แดนนี่ แก๊บบิดอน, แม็ตธิว อัพสัน, เอริต้า อิเลิงก้า (เจมส์ ทอมกิ้นส์ น.76), เฟรเดริก ปิกิยอนน์, มาร์ค โนเบิ้ล, ราโดสลาฟ โควัช, หลุยส์ บัว มอร์ต, วิคเตอร์ โอบินน่า (ปาโบล บาร์เรร่า น.46), คาร์ลตัน โคล (เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ น.70)
สำรองไม่ได้ใช้ : มาเร็ค สเต็ช, วินสตัน รีด, โจนาธาน สเป็คเตอร์, แฟร้งค์ นูเบิ้ล
ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต
สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- อาร์เซน่อล แพ้ สเปอร์ส 2-3
- เบอร์มิงแฮม ชนะ เชลซี 1-0
- โบลตัน ชนะ นิวคาสเซิ่ล 5-1
- แบล็คพูล ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ วีแกน 2-0
- เวสต์บรอมวิช แพ้ สโต๊ค ซิตี้ 0-3
- ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์แฮม 3-0
ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/101121_015.html