วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

เคาท์แฮตทริก!หงส์กำชัยแดงเดือดอัดผี3-1


"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มระเบิด เปิดรังแอนฟิลด์ถล่มคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ไปแบบไม่เกรงใจ 3-1 เดิร์ก เคาท์ อาสายิงแทนเพื่อนเหมาแฮตทริกคนเดียวในเกมนี้ ก่อน ชิชาริโต้ จะมาโหม่งประตูตีไข่แตกช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูลเก็บสามคะแนนพร้อมแซงขึ้นที่6 ส่วน แมนฯยูไนเต็ด นำ อาร์เซน่อล3คะแนนเท่าเดิม แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ในศึกพรีเมียร์ลีก เกมแดงเดือด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
  วันอาทิตย์ที่ 6 มี.ค.54
  ลิเวอร์พูล 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
   

สนาม:แอนฟิลด์


      ศึกวันแดงเดือดที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลใส่ชื่อแอนดรูว์ แคร์โรลล์กองหน้าค่าตัวสถิติสโมสร 35 ล้านปอนด์ที่หายเจ็บต้นขาเป็นตัวสำรองเกมแรกนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมจากนิวคาสเซิ่ล 


        ด้านสตีเว่น เจอร์ราร์ดที่ตกเป็นข่าวลือก่อนเกมว่าเจ็บขาหนีบช่วงซ้อมมีชื่อเป็นตัวจริง รวมแล้วหงส์แดงเปลี่ยนผู้เล่นสองรายจากนัดพ่ายเวสต์แฮมโดยแบ็คซ้ายฟาบิโอ ออเรลิโอลงบู๊แทนมาร์ติน เคลลี่ที่บาดเจ็บ และโยกเกล็น จอห์นสันกลับไปเล่นแบ็คขวา ขณะที่แดนนี่ วิลสันเสียตำแหน่งให้กับมักซี่ โรดริเกซ


        ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ดประสบปัญหาใหญ่ไม่มีคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟริโอ เฟอร์ดินานด์ที่บาดเจ็บ และเนมานย่า วิดิชที่ติดโทษแบน ทำให้เวส บราวน์ได้ประสานงานกับคริส สมอลลิ่งโดยมีปาทริซ เอวร่ารับภาระกัปตัน


         พร้อมกันนี้ไรอัน กิ๊กส์ก็ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทำลายสถิติลงเล่นให้สโมสรในลีก 606 นัดของเซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน


         ขณะเดียวกัน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟกองหน้าบัลแกเรียที่ยิงแฮททริคหักปีกหงส์ในลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดก็กลับมาอยู่ในโผตัวจริงเช่นเดียวกับแบ็คขวาราฟาเอล ดา ซิลวา


       เกมเริ่มต้นโดยลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเดินหน้ากดดันอาคันตุกะก่อน แต่นาทีที่ 16 เป็นแมนฯ ยูไนเต็ดที่มีลุ้นจนน่าจะพังประตูได้จากจังหวะซัลโวหน้าเขตโทษของเบอร์บาตอฟ แล้วบอลตกพื้นกระดอนหนีสุดมือโฆเซ่ เรน่าแล้ว แต่มีเสาช่วยเซฟเจ้าบ้านไว้


         หลังเกือบเสียความบริสุทธิ์ ลิเวอร์พูลก็เร่งเกมทันที และเกือบนำเช่นกันในอีกสองนาทีต่อมาจากลูกวางยาวทางกราบขวาของหลุยส์ ซัวเรซที่ลอยเข้าเขตโทษแล้วราอูล เมยเรเลสโขกตั้งย้อนไปที่เสาแรก แต่เดิร์ก เคาท์แหย่ขาเข้าฮอสระยะเผาขนไม่ถึง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์จึงคว้าเอาไว้


         อย่างไรก็ดี ผ่านมาถึงนาทีที่ 24 ออเรลิโอจอมเดี้ยงก็เจ็บเอ็นหลังเข่าซ้าย และเล่นต่อไม่ได้ต้องเดินออกให้โซติริออส คีร์เกียคอสลงไปเสียบแทน


         นับจากนั้น เกมของเจ้าบ้านก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง และนาทีที่ 34 ซัวเรซก็ระเบิดฟอร์มเทพเลื้อยเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วล็อคหลบสามแข้งผีทั้งราฟาเอล , ไมเคิ่ล คาร์ริค และบราวน์ก่อนจะไหลจากเส้นหลังลอดหว่างขาฟาน เดอร์ ซาร์ไปหน้าประตูให้เคาท์จิ้มจากระยะหลาเดียวตุงตาข่ายพาลิเวอร์พูลนำ 1-0  แม้นายทวารผีแดงจะพยายามประท้วงว่าดาวเตะดัตช์ล้ำหน้าก็ไม่เป็นผล 


        หงส์แดงได้ใจขึ้นมาทันที และเปิดฉากบดขยี้ทีมจ่าฝูงอย่างต่อเนื่อง จากนั้นอีกสี่นาทีต่อมาซัวเรซก็ตักบอลยาวจากกราบขวาเข้าเขตโทษแล้วนานี่ทำพลาดโขกสกัดผิดเหลี่ยม บอลย้อนกลับไปหน้าปากประตูตัวเองให้เคาท์ขวิดจากหกหลาไม่เหลือเพิ่มสกอร์ให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0


         ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ดพยายามดันเกมขึ้นสูง ขณะที่หงส์แดงเน้นแพ็คเกมอย่างรัดกุม กระทั่งนาทีที่ 45 เจมี่ คาร์ราเกอร์ก็เปิดปุ่มยันใส่แข้งซ้ายนานี่เต็มแรงแถมริมสนามแล้วผู้เล่นทั้งสองฝ่ายกรูเข้ากดดันสิงห์เชิ้ตดำอย่างหนัก ก่อนที่กองหลังเจ้าบ้านจะได้ใบเหลืองพร้อมฟาน เดอร์ ซาร์ที่วิ่งมาประท้วงถึงกลางสนามโดยปีกโปรตุกีสที่ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดถูกหามลงเปลออกไป


         ช่วงทดเวลาเจ็บ ปีศาจแดงเล่นสิบคนไปก่อน และเกมยังเดือดมีจังหวะที่ราฟาเอลปั๊มแย่งบอลกับมักซี่ ก่อนจะตามไปปะทะกับลูคัส เลว่าแบบไม่ยั้งจนทำเอามาร์ติน สเคอร์เทลฉุนแทนเพื่อนปรี่เข้ามาผลักอกกับราฟาเอลก่อนที่ทั้งคู่จะได้ใบเหลือง


        จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ดก็เปลี่ยนฮาเวียร์ เอร์นานเดซลงไปแทนนานี่ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบเกมในครึ่งแรกโดยเจ้าบ้านนำ 2-0 


     ครึ่งหลังลิเวอร์พูลเล่นกันได้ด้วยความสบายใจ แต่นาทีที่ 49 ผีแดงได้เสียวจากการสาดบอลยาวทางฝั่งขวาของเบอร์บาตอฟ ทว่าเอร์นานเดซเข้าวอลเลย์ระยะสิบหลาไม่เต็มเท้า บอลจึงหลุดออกเส้นหลัง


       ถัดมาในนาทีที่ 55 ผีแดงน่าจะตีไข่แตกได้เมื่อเวย์น รูนีย์พาบอลลุยขึ้นไปทางซ้ายแล้วโยกหนีคาร์ราเกอร์ก่อนจะปาดเข้ากลางให้กิ๊กส์วิ่งเข้าเข่นระยะ 16 หลาโดยไม่ต้องจับส่งบอลโด่งข้ามคานไปนิดเดียว


       ทีมเยือนอาศัยความใจสู้และขยันสร้างปัญหาให้เจ้าบ้านได้ทีละน้อย กระทั่งนาทีที่ 59 รูนีย์ก็ตักบอลจากกราบซ้ายไปเสาไกลแล้วเจ้าบ้านเคลียร์ไม่ขาด บอลย้อนกลับมาเสาแรกให้เบอร์บาตอฟโขกเผาขนไปติดอกเมยเลเรสที่คุมเสาอยู่


       ล่วงมาอีกสามนาที ลิเวอร์พูลโต้ได้ดีจนน่าจะเพิ่มสกอร์ได้เมื่อเคาท์ไหลบอลทะลุช่องให้เมยเรเลสหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้ายโดยไม่ล้ำหน้า แต่จังหวะสับไกถูกฟาน เดอร์ ซาร์ทิ้งตัวปัดได้ก่อนที่เอวร่าจะตามไปเตะทิ้งอีกแรง


       อย่างไรก็ดี นาทีที่ 65 เจ้าบ้านได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านขวาหลังจากบราวน์ทำฟาวล์เคาท์  ซัวเรซจึงรับหน้าที่ซัดไปที่เสาแรกถูกฟาน เดอร์ ซาร์ตะปบหลุดมือ ทำให้เคาท์จอมเก็บตกปรี่เข้าซ้ำเผาขนพาหงส์แดงนำลิ่ว 3-0 เป็นแฮททริคของดาวเตะกังหันลม


      กระทั่งนาทีที่ 74 ลิเวอร์พูลก็เปลี่ยนเมยเรเลสออก ส่งแคร์โรลล์ลงประเดิมสนาม จากนั้นอีกสองนาทีผีแดงก็ปล่อยจอห์น โอเชลงบู๊แทนราฟาเอล


      ช่วงท้าย หงส์แดงกลับมากางตำราบุกเอาใจสาวกอีกรอบ จวบจนนาทีที่ 84 สโคลส์ก็โดนจดชื่อข้อหาดักซัวเรซล้มก่อนที่ทีมเยือนจะเปลี่ยนดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ลงเล่นแทนสโคลส์


       นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลส่งโจ โคลลงไปแทนซัวเรซ และจากลูกฟรีคิกทางกราบขวาของเจ้าถิ่น ลูคัสก็จ่ายมาหน้าเขตโทษให้เจอร์ราร์ดวิ่งเข้าแปกระทบเคาท์เฉี่ยวกรอบไปอย่างเฉียดฉิว


        จากนั้นในช่วงทดเวลาเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ดก็ได้ประตูปลอบใจเมื่อกิ๊กส์โยนบอลจากริมเขตโทษด้านขวามาให้เอร์นานเดซโขกจากหกหลาสะบัดเข้าเสาสองงดงาม จบเกมหงส์แดงจึงพิชิตปีศาจแดง 3-1 ขยับจากอันดับเจ็ดขึ้นสู่ที่หกขณะที่เร้ด เดวิลส์แพ้เป็นนัดที่สาม ยังนำเป็นจ่าฝูงมีคะแนนมากกว่าอาร์เซน่อลสามแต้ม แต่ลงเล่นมากกว่าหนึ่งนัด

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ (โซริติส คีร์เกียกอส น.24), สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลวา, เดิร์ค เคาท์, ราอูล เมยเรเลส (แอนดรูว์ แคร์โรลล์ น.74), มักซี่ โรดริเกซ, หลุยส์ ซัวเรซ (โจ โคล น.89)
สำรองไม่ได้ใช้ : ปีเตอร์ กูลัคชี่, ดาวิด เอ็นก๊อก, เจย์ สเพียริ่ง, คริสเตียน โพลเซ่น
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา (จอห์น โอเช น.76), คริส สมอลลิ่ง, เวส บราวน์, ปาทริซ เอวร่า, นานี่ (ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ น.46), ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์ (ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ น.83), ไรอัน กิ๊กส์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนี่ย์ 
สำรองไม่ได้ใช้ : โทมัส คุสแซ็ค, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, กาเบรียล โอแบร์ต็อง, ดาร์รอน กิ๊บสัน
ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์




เดิร์ก เคาท์วิ่งมาแปโล่งๆเป็นประตูเบิกร่องให้กับลิเวอร์พูล 



เพื่อนๆวิ่งมาดีใจกับหลุยส์ ซัวเรซหลังโชว์ฟอร์มลากเลื้อยจนเป็นส่วนให้ทีมได้ประตู


แอนดี้ คาร์โรลล์ได้มีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนี้ครั้งแรกหลังจากย้ายจากนิวคาสเซิ่ล


นานี่เดี้ยงหนักจนต้องหามลงเปลออกจากสนาม



คิง เคนนี่ยิ้มร่าเริงหลังทีมผลงานเยี่ยมแถมเหล่าเดอะ ค็อปยังร้องเพลงแฮปปี้ เบิร์ธ เดย์ให้อีก


ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110306_274.html